ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

สาเหตุที่ทำหน้าอกไม่เท่ากัน


มูลเหตุที่ทำอกแตกต่างกัน
• เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการใส่ซิลิโคนแตกต่างกันตั้งแต่ทีแรกที่เสริมทรวงอก โดยบางทีอาจจะใส่ซิลิโคนน้อยกว่าอีกข้าง ก็เลยทำให้เต้านมกำเนิดอาการเบี้ยวได้ โดยต้นสายปลายเหตุนี้จะสามารถมองเห็นได้ในทันทีหลังจาการเสริมอก แต่ว่าถ้าหากว่าแผลบวมมากมาย ผู้ป่วยจะมองเห็นอีกครั้งภายหลังแผลยุบไปแล้ว 1 เดือน ในเรื่องที่มีสาเหตุมาจากไขมันตนเองนั้น ได้โอกาสที่จะทำให้ทรวงอกแตกต่างกัน เพราะว่าขณะที่ไขมันตาย จะตายแตกต่างกัน เนื่องจากว่าในเรื่องที่เสริมทรวงอกด้วยไขมัน ถ้าหากเสริมให้ทรวงอกไซส์ใหญ่จะใช้จำนวนไขมันมากมาย ซึ่งจะมีผลให้มีความคิดเห็นว่าอกแตกต่างกันได้ชัดภายหลังที่ไขมันตาย แต่ว่าหากว่าเสริมอกด้วยไขมันโดยจำนวนที่น้อย ก็จะไม่ค่อยมองเห็นความไม่เหมือนอย่างเห็นได้ชัด กรรมวิธีการปรับปรุงนั้น เพียงแต่เพิ่มเติมไขมันเข้าไปให้พอๆกับจำนวนของอีกข้าง สิ่งที่จำเป็นเป็นร่างกายควรจะมีไขมันเยอะพอสมควร ถึงจะกระทำการเสริมให้พอๆกับอีกข้างได้
• มีต้นเหตุจากสรีระของแต่ละบุคคล ขั้นตอนแรกหมอต้องบอกผู้เจ็บป่วยก่อนว่า อกเดิมของคนเจ็บแตกต่างกันอยู่แล้ว เมื่อเสริมอาจจะมีการเกิดอาการเบี้ยวได้ บางบุคคลจะมองเห็นอกเบี้ยวโดยทันทีเลยหลังจากาแขนเสริม แม้กระนั้นหากเสริมด้วยถุงน้ำเกลือ จะสามารถปรับขนาดได้ในทันที ซึ่งในปัจจุบันนี้ไม่ค่อยนิยมแล้ว ส่วนซิลิโคนนั้นในยุคนี้มีไซส์ไม่เหมือนกัน แต่ว่าสามารถเลือกใช้คนละขนาดในแต่ละข้างได้
• ภาวการณ์เต้าซ้อนหรือ Double Bubble เป็นความไม่ปกติอย่างหนึ่ง รอบๆต้าข้างหลังแนวทางการทำศัลยกรรมเสริมอกรอบๆใต้กล้ามอก เมื่อเสริมซิลิโคนเข้าไปรอบๆเยื่อใต้กล้ามแล้ว ถุงซิลิโคนใต้รอบๆเต้านม ก็จะมีการหย่อนยานลงมาจะมีลักษณะเหมือนเต้านมอีกคู่หนึ่ง รวมทั้งอีกสิ่งหนึ่งซึ่งสามารถกำเนิดได้เป็น คนเจ็บที่มีการทำศัลยกรรมอกมาก่อน เมื่อแก่ขึ้นหรือภายหลังการตั้งท้อง ก็สามารถกำเนิดเป็นเต้าซ้อนได้ ด้วยเหตุว่าเนื้อเต้านมมีการหย่อนยานคล้อยตัวลงมานั่นเอง แม้กระนั้นกรณี “เต้าซ้อน” บางทีอาจมิได้มีเหตุที่เกิดจากการเสริมซิลิโคนทรวงอกรอบๆข้างหลังกล้ามเต้านมเสมอ ถ้าเกิดลักษณะฐานเต้านมก่อนทำศัลยกรรมมีเนื้อน้อย พิจารณาได้จากความห่างระหว่างจุกนมกับรอยพับใต้ฐานนมไม่ปรากฏเนื้อนูนขึ้นมา
ลักษณะทรวงอกที่ได้โอกาสปรับปรุงเป็นเต้าซ้อน ข้างหลังการศัลยกรรมเสริมอก อาทิเช่น
1.ทรวงอกเดิมมีลักษณะฟีบแบน หรือเรียกว่าไม่มีเนื้อเต้านม (Snoopy Breast)
2.เสริมซิลิโคนไม่ถูกตำแหน่ง อย่างเช่น เสริมในตำแหน่งสูงเหลือเกินไม่เพียงพอดีกับฐานเต้านมเดิม
3.เลือกซิลิโคนเสริมใหญ่เกินกว่าฐานเต้านมเดิม
4.มีแผลรอบๆเนื้อเต้านม
5.กำเนิดพังทลายพืดหดรัดข้างหลังการศัลยกรรมทรวงอก (Capsular Contracture)
• เกิดภาวะแคปซูล หรือ ผังผืดหดรัด เมื่อมีการใส่ถุงซิลิโคนเข้าไปภายในร่างกาย ร่างกายจะมีการสร้างพังผืดขึ้นมาหุ้มห่อตรงรอบๆนั้นรอบๆ จะมีลักษณะราวกับแคปซูล ที่แยกเป็นถุงอยู่ด้านในกับเยื่อที่อยู่ข้างนอก ซึ่งสิ่งพวกนี้จะเป็นกลไกสำหรับในการปกป้องสิ่งปลอมปนต่างๆแล้วก็สารที่ไปสู่ร่างกาย ด้วยเหตุนี้ถุงซิลิโคนจะถูกล้อมไปด้วยพังผืด แต่ว่าถ้าเกิดพังผืดมีการหดรัดตัว แล้วก็มีความดก ก็จะมีผลให้เต้านมโดยรวมมีลักษณะเป็นก้อนแข็ง หรือถ้าเกิดมีพังผืดหดตัวเยอะขึ้น อาจจะส่งผลให้กำเนิดก้อนแข็ง และก็ผิดแบบไม่ยุติธรรมชาติได้ อาการแคปซูล หรือพังผืดหดรัดซิลิโคน เป็นอาการข้างๆซึ่งสามารถมักพบเยอะที่สุดภายหลังจากการผ่าตัดเสริมอก ชอบเกดตอนไหนก็ได้หรือเร็วที่สุด 1-2 เดือน
ต้นสายปลายเหตุที่กระตุ้นให้เกิดพังผืด หรือ แคปซูล จะคล้ายกับสาเหตุที่ส่งผลให้เกิดแผล สำหรับบางบุคคลที่ปฏิกิริยาร่างกายไวต่อสิ่งเจือปน ก็จะก่อให้รอยแผลขึ้นได้ง่าย ซึ่งการเกดพังผืด หรือ แคปซูลสำหรับเพื่อการเสริมอก มีดังนี้
(1) มีการแปดเปื้อนของเชื้อโรครอบๆถุงซิลิโคน
(2) ตำแหน่งที่วางถุงซิลิโคนส่วนมากจะวางไว้เหนือกล้าม ก็เลยทำให้ได้โอกาสกำเนิดพังผืดได้มากกว่า
(3) มีภาวการณ์เลือดคั่ง นำไปสู่การอักเสบ และก็กำเนิดพังผืดตามมา
(4) ขึ้นกับแต่ละบุคคลโดยระดับของการเกิดพังผืด สำหรับเพื่อการเสริมอกนั้น มีด้วยกัน 4 ระดับ
(4.1) ระดับที่ 1 เต้านมยังคงนุ่ม และก็มองเที่ยงธรรมดูตำหนิตามธรรมดา
(4.2) ระดับที่ 2 เต้านมแข็งขึ้นนิดนึง แต่ว่ายังแลดูอย่างเป็นธรรมชาติอยู่
(4.3) ระดับที่ 3 เต้านมแข็งขึ้น แล้วก็เริ่มผิดรูปผิดร่าง
(4.4) ระดับที่ 4 เต้านมแข็งแล้วก็ผิดรูปผิดร่างอย่างแจ่มแจ้ง


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เสริมคางด้วยซิลิโคนนิ่มพิเศษ ให้ลุคธรรมชาติ

ศัลยกรรมคาง (Chin Surgery, Genioplasty) คางเป็นจุดที่สำคัญจุดหนึ่งของบริเวณใบหน้า ศัลยกรรมคาง สามารถทำให้รูปหน้าเปลี่ยนได้มาก คางของเพศชายจะมีความกว้าง ครึ้ม รวมทั้งแบน ส่วนสตรีจะมีคางแคบ มน แล้วก็อ่อนโยน ซึ่งศัลยแพทย์ผู้ผ่าตัดควรมีความชำนาญและก็ชำนิชำนาญสำหรับการปรับรูปร่างของคาง ด้วยการเสริมคาง ตัดคาง หรือเลื่อนคาง จะเป็นการช่วยปรับให้รูปหน้าให้ได้สัดส่วน รวมทั้งสมดุล เสริมคาง (Chin Augmentation) อุปกรณ์ที่ใช้เพื่อการเสริมคาง ที่นิยมใช้ในทางการแพทย์มาอย่างนาน มีความปลอดภัยสูง เช่น 1.Silicone 2.Gore-Tex (e-PTFE) 3.Med pore 4.AlloDerm นอกเหนือจากนั้นยังมี Fat Transfer โดยดูดไขมันจากส่วนอื่น แล้วปั่นแยกเอาเฉพาะไขมันที่สะอาดนำไปฉีดเพิ่มขนาดแล้วก็ปรับรูปร่างของคางได้อีกด้วย ตำแหน่งของแผลผ่าตัดเสริมคาง มี 2 แบบเป็น 1.แบบมีแผลข้างในปาก 2.แบบมีแผลใต้คาง กระบวนการเสริมคาง การเสริมด้วย ซิลิโคนแท่ง, Gortex, แล้วก็ Medpore เป็นแนวทางที่นิยมสำหรับคนที่อยากเสริมน้อยหรือปานกลาง ด้วยความสูงที่ไม่เกิน 0.5 มม. เป็นการผ่าตัดที่ง่ายและก็ใช้เวลาโดยประมาณ 45 นาที โดยไม่ต้องส

การดูแลหลังทำจมูก

1.เสนอแนะให้เลี่ยงผู้กระทำดร้ายแรงรอบๆจมูก เพื่อจมูกข้างหลังผ่าตัดกลับสู่ภาวะธรรมดาให้เร็วที่สุด ใน 48 ชั่วโมงแรกเสนอแนะให้ประคบเย็นรอบๆระหว่างขนคิ้วแล้วก็ตาทั้งสองข้าง โดยประคบนาน 20 นาทีสลับกับพัก 20 นาที รวมทั้งภายหลังสองวันก็เลยเริ่มประคบอุ่นได้ 2.ห้ามนอนคว่ำหน้า โดยให้นอนหงายและก็นอนชูหัวสูงขึ้นขั้นต่ำ 30 องศาเพื่อลดอาการบวม 7 วัน คร่าวๆ 3.งดเว้นกินอาหารดอง วิตามิน อาหารเสริม เครื่องดื่มแอลกอฮอร์ และก็งดเว้นการสูบยาสูบขั้นต่ำ 1 เดือน เนื่องจากสิ่งกลุ่มนี้จะกระตุ้นให้ร่างกายมีการสูบฉีดเลือดมากเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะก่อให้กำเนิดลักษณะของการปวดหรือบวมนานขึ้น ทำให้แผลศัลยกรรมหายช้า 4.ห้ามให้แผลผ่าตัดโดนน้ำ 7 วัน โดยทำความสะอาดให้ใช้กระดาษซับมันซับน้ำมันใบหน้า ใช้สำลีชุบน้ำอุ่นหมาดถูทั่วบริเวณใบหน้า 5.คนรับการผ่าตัดควรจะงดเว้นแต่งหน้าทาปาก และก็ควรจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้วก็เย็น ไม่มีฝุ่นผง ซึ่งฝุ่นละออง นั้นเป็น 1 ในต้นสายปลายเหตุให้มีการแพ้อากาศ โดยหากมีน้ำมูกให้รีบกินยาแก้แพ้เพื่อ ลดน้ำมูกในทันที หลบหลีกการไอ จาม สั่งขี้มูกซึ่งจะก่อให้จมูกได้รับการกระทบสะเทือนหรือเปรอะ